สมัยนี้ความต้องการใช้รถยนต์เริ่มได้รับความนิยมมาก เพราะทำให้เราสะดวกเวลาไปไหนมาไหนไกลๆ แต่ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มตัดสินใจซื้อนั้น จำเป็นจะต้องหยุดคิดนิดนึงถึงเรื่องความเหมาะสมว่าจะตรงตามสเปคที่เรากำหนดไว้หรือไม่ และวันนี้เราจะมานำเสนอ 5 ปัจจัยหลักๆ ที่จะช่วยให้ทุกท่านได้พิจารณาก่อนซื้อรถยนต์ว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. ดูงบประมาณในกระเป๋าตัวเอง – การซื้อรถยนต์ของคนส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงแต่เรื่องความสะดวก สะบายเป็นหลัก โดยไม่สนเรื่องราคา ซึ่งหากถ้าเรายอมลงทุนสู้กับราคาที่แพงเกินกว่าทุนตัวเองจะรับไหวนั้น เราอยากให้คิดดูอีกทีว่า คุณกำลังจะสบายมากขึ้นหรือลำบากมากขึ้นกันแน่ครับ

2. เลือกประเภทรถที่เหมาะสม – หากรู้ว่าตัวเราเองมีงบน้อย หรืออยู่ในช่วง 5-6 แสนบาท ให้พยายามมอง รถยนต์จำพวกอีโคคาร์ซึ่งมีทั้งแบบแฮชแบ็ก 5 ประตู และ 4 ประตู หรือรถประเภทซิตี้คาร์ที่คันใหญ่ขึ้นมาหน่อย หรือรถยนต์นั่ง 4 ประตูขนาดเล็ก ซึ่งราคารถจำพวกนี้จะอยู่ในช่วงงบประมาณที่เราเสนอไปตอนแรก และเหมาะสมคุ้มค่าต่อการใช้งานมากอีกด้วย

3. ศึกษาข้อมูล – การศึกษาข้อมูลรถยนต์ก่อนซื้อนั้น จำเป็นจะต้องมีความรู้ให้มากๆ เพื่อจะทำให้เราได้มองเห็นจุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละยี่ห้อ และนำมาพิจารณาอีกทีว่าแบบไหนที่เราต้องการ

4. การรับประกันและแบรนด์รถยนต์ – ค่ายรถยนต์ในบ้านเราส่วนใหญ่ต่างก็มีมาตรฐานทัดเทียมกัน แต่ก็มีบางค่ายที่ดูแล้วยังมีความน่าเชื่อถือน้อยอยู่ ฉนั้นการเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน และพยายามอย่าลืมศึกษาข้อมูลรายระเอียดการรับประกันมาให้ดีที่สุด

5. ความประหยัด – ในรถยนต์แต่ละคันจะมีระบบใช้พลังงานทางเลือก ที่แตกต่างกันออกไป ฉนั้นเวลาจะเลือกซื้อควรจะดูก่อนว่ารถยนต์ที่คุณต้องการมีระบบการทำงานของเครื่องยนต์แบบไหน และมีโอกาสหาทางประหยัดได้มากแค่ไหน เช่นสามารถติดตั้งพลังงานทางเลือกพวก LPG หรือ NGV ได้หรือไม่

6. โอกาสในการขายต่อ – สุดท้ายนี้สิ่งที่อย่าลืมก็คือ คุณจะต้องดูด้วยว่า เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี คุณต้องการอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ขับ ซึ่งรถคนเก่าของคุณจะสามารถประเมินราคาได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ใช้งานมาจนคุ้มค่าและสภาพเครื่องจะยังคงดีอยู่ไหม เพื่อจะทำให้คุณเองแบ่งเบาภาระไปได้เยอะหากขายรถคันเก่าได้ในราคาที่คุ้มค่าและนำไปสมทบทุนซื้อรถยนต์คันใหม่